7 มิ.ย. 2557

อวัยวะอื่นๆ

          รก หลังจากเอ็มบริโอฝังตัวที่ผนังมดลูกแล้ว เซลล์ของรก (placenta) จะเริ่มหลั่งฮอร์โมนชื่อ human chorionic gonadotrophin เพื่อกระตุ้นคอร์ปัสลูเทียมในรังไข่ให้เจริญต่อไปและสร้างโพนเจสเทอโรนเพิ่มขึ้น

                  


           ไทมัส (thymus) เป็นอวัยวะที่มีลักษณะเป็นพู มีตำหแหน่งอยู่ระหว่างกระดูกอกกับหลอดเลือดใหญ่ของหัวใจ มีหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวคือลิมโฟไซต์ชนิดทีหรือเลล์ที การแบ่งเซลล์และพัฒนาการของลิมโฟไซต์ชนิดทีอาศัยthymosin ดังนั้นไทโมซินจึงเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย


                           

กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก  เมื่อกล่าวถึงกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก คงนึกถึงการสร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆ นอกจากนี้อวัยวะทั้งสองยังสามารถสร้างและหลั่งฮอร์โมนได้ด้วย                                       

-    Gastrin สร้างจากกระเพาะอาหาร ฮอร์โมนชนิดนี้มีหน้าที่กระตุ้นการหลั่งเอนไซม์และกรดไฮโดนคลอริก
-    Secretin สร้างจากบริเวณลำไส้เล็กส่วนดูโอดีนัม ขณะที่อาหารที่มีความเป็นกรดจากกระเพาะอาหารผ่านเข้าไปในดูโอ
ดินัม ซีครีทินจะกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งโซเดียมไฮโดนเจนคาร์บอเนต
-    Cholecystokinin สร้างจากดูโอดีนัม กระตุ้นการบีบตัวของถุงน้ำดีและตับอ่อนให้หลั่งเอนไซม์


อวัยวะเพศ

อวัยวะเพศ
          อวัยวะเพศ  ได้แก่ อัณฑะ (testis) และรังไข่ (ovary) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 อย่างคือ สร้างเซลสืบพันธ์และสร้างฮอร์โมน

          -  ฮอร์โมนเพศชาย ที่สำคัญคือ เทสทอสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งจะทำหน้าที่หลายอย่างคือ
1) ควบคุมการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธ์
2) ทำให้อัตราการเจริญเติบโตของกระดูกเพิ่มขึ้น
3) กระตุ้นการสร้างโปรตีนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเอ็นไซม์
4) ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนเพศชาย

         - ฮอร์โมนเพศหญิง ที่สำคัญคือ เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone)
1.)ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธ์และลักษณะต่างๆของความเป็นเพศหญิง
2.)ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์คือ ระงับไม่ให้ไข่สุกระหว่างตั้งครรภ์ป้องกันไม่ให้มีประจำเดือนระหว่างตั้งครรภ์ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูกชั้นในเพื่อรองรับการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสม และกระตุ้นต่อมน้ำนมให้เจริญเติบโต


                                                ภาพ:ต่อมเพศ.jpg


6 มิ.ย. 2557

ต่อมหมวกไต

           ต่อมหมวกไต (adrenal gland) ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอยู่เหนือไตทั้งสองข้าง ต่อมนี้ประกอบด้วยเนื้อเยื่อชั้นนอก เรียกว่า ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex) และเนื้อเยื่อชั้นใน เรียกว่า ต่อมหมวกไตส่วนใน (adrenal medulla)


  ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนนอก
         1.) Glucocorticoids ทำหน้าที่ ควบคุบเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต ตัวอย่างฮอร์โมนในกลุ่มนี้คือ cortisol
มีหน้าที่สำคัญในการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด โดยกระตุ้นเซลล์ตับให้เปลี่ยนกรดอะมิโนและกรดไขมันเป็นคาร์ดบไฮเดรตและเก็บสะสมไว้ในรูปของไกลโคเจน ทำให้ตับมีไกลโคเจนสะสมสำหรับเปลี่ยนเป็นกลูโคสส่งเข้ากระแสเลือด นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ควบคุมสมดุลของแร่ธาตุได้เล็กน้อย
         2.) Mineralocorticoid ทำหน้าที่ ควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ฮอร์โมนสำคัญกลุ่มนี้ คือ aldosterone ช่วยในการทำงานของไตในการดูดกลับ Na และ Cl ภายในท่อไต ถ้าขาด aldosterone จะทำให้ร่างกาย สูญเสียน้ำและโวเดียมไปพร้อมกับปัสสาวะ ส่งผลให้เลือดในร่างกายลดลง จนอาจทำให้ผู้ป่วยตาย เพราะความ ดันเลือด ต่ำ
        3.) Sex hormone ฮอร์โมนเพศช่วยควบคุมลักษณะทางเพศที่สมบูรณ์ทั้งชายและหญิง

ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนใน
        อะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla ) เป็นเนื้อชั้นในของต่อมหมวกไต อยู่ภายใต้การควบคุมของ sympathetic ถูกกระตุ้นในขณะตกใจ เครียด กลัว โกรธ เนื้อเยื่อชั้นนี้จะทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ
        Adrenalin hormone หรือ Epinephrine hormone กระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรง เส้นเลือดขยายตัว เปลี่ยน glycogen ในตับให้เป็นกลูโคสในเลือด
        Noradrenlin hormone หรือ Norepinephrine hormone กระตุ้นให้เส้นเลือดมีการบีบตัว ผลอื่นคล้ายๆ adrenalin แต่มีฤทธิ์น้อยกว่า











31 พ.ค. 2557

ตับอ่อน

          ตับอ่อน (Pancreas) ตั้งอยู่ที่ด้านบนซ้ายของช่องท้อง โดยวางตัวจากส่วนโค้งของลำไส้เล็กส่วนดูโอดีนัม (duodenum ) ถึงม้าม (spleen) และด้านหลังของกระเพาะ (stomach) มีลักษณะค่อนข้างแบน มีความยาวประมาณ 12 –15 เซนติเมตร ตับอ่อน ทำหน้าที่ทั้งเป็นต่อมมีท่อคือการสร้างน้ำย่อยไปที่ลำไส้เล็กและเป็นต่อมไร้ท่อสร้างฮอร์โมนเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนจะรวมกันเป็นกลุ่มมีชื่อว่า ไอเลตส์ออฟแลงเกอร์ฮานส์ ( Islets of Langerhans ) มีปริมาณ 1 – 3 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อเยื่อตับอ่อนทั้งหมด

ฮอร์โมนที่สร้างจากไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์
          1) ฮอร์โมนอินซูลิน ( Insulin ) สร้างจากเบต้าเซลล์ ( beta cell ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่รอบนอกของกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ อวัยวะเป้าหมาย ตับ,กล้ามเนื้อ  หน้าที่ ลดระดับน้ำตาลในเลือด (ระดับน้ำตาลในเลือดปกติ 80 - 100 มิลลิกรัม / 100 ลบ.ซม. ) โดยเพิ่มการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ตับ กระตุ้นให้เซลล์ตับและเซลล์กล้ามเนื้อเปลี่ยนกลูโคสให้เป็นไกลโคเจน( โมเลกุลของคาร์์โบไฮเดรตที่สร้างจากกลูโคส )เก็บสะสมไว้ภายในเซลล์
       -  ความผิดปกติ เกิดโรคเบาหวาน( diabetes mellitus)โรคนี้เกิดจากตับอ่อนสร้าง ฮอร์โมนอินซูลิน(lnsulin)ได้น้อยหรือไม่ได้เลยทำให้เซลล์้ตับและเซลล์กล้ามเนื้อไม่สามารถเปลี่ยนกลูโคสในเลือดให้เป็นไกลโคเจนเก็บสะสมไว้ภายในเซลล์ได้จึงเกิดการสะสมของน้ำตาลในเลือดเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดมีมากเกินปกติก็จะถูกไตขับออกมาในปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวาน หรือมีมดขึ้นได้ จึงเรียกว่าเบาหวาน
        2) ฮอร์โมนกลูคากอน ( Glucagon )  สร้างจาก แอลฟาเซลล์( alpha cell ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ส่วนในและเป็นเซลล์ส่วนใหญ่ของกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์( ดูภาพด้านบน )  อวัยวะเป้าหมาย ตับ,กล้ามเนื้อ หน้าที่ เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นให้เซลล์้ตับและเซลล์กล้ามเนื้อเปลี่ยนไกลโคเจนให้เป็นกลูโคสปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด เพิ่มการสังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิโนและกรดไขมัน








ต่อมพาราไทรอยด์

              ต่อมพาราไทรอยด์ (parathyroid gland) สร้างฮอร์โมน คือ parathormone / parathyroid ; PTH  ต่อมนี้มีความสำคัญในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมเท่านั้น ฮอร์โมนจากต่อมนี้มีหน้าที่สำคัญคือ ควบคุมสมดุลของแคลเซียมและฟอสเฟตในเลือดให้คงที่ โดยมีผลสำคัญต่ออวัยวะ 3 แห่ง คือ ผลต่อกระดูกช่วยเพิ่มอัตราการสลายแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่กระดูก ผลต่อไตช่วยเพิ่มการดูดกลับแคลเซียมที่ท่อหน่วยไต แต่กระตุ้นการขับฟอสเฟตออกทางปัสสาวะ ผลต่อทางเดินอาหารช่วยเร่งอัตตราการดูดซึมของแคลเซียมเข้าสู่ลำไส้เล็ก การทำงานของ PTH จะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับวิตามินดี
          ถ้าต่อมนี้สร้างพาราทอร์โมนได้น้อยกว่าปกติ ทำให้การดูดกลับแคลเซียมที่ท่อหน่วยไตและการสลายแคลเซียมจากกรุดูกน้อยลง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งและชักกระตุก  ถ้าต่อมนี้สร้างฮอร์โมนมากเกินไปจะมีการสลายแคลเซียมจากฟันและกระดูกมายังกระแสเลือด ทำให้แคลเซียมในเลือดสูง กระดูกบาง ฟันผุ


ต่อมไทรอยด์

          ต่อมไทรอยด์ (Thyroid gland) ของคนจัดได้ว่าเป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ต่อมหนึ่งอยู่ติดกับบริเวณกล่องเสียงมีลักษณะเป็นพู 2 พูและมีเนื้อเยื่อของต่อมพาราไทรอยด์ติดอยู่ทางด้านหลังข้างละ 2 ต่อม ต่อมนี้มีไอดอดีนจำนวนมาก  ต่อมนี้สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ
             1. Thyroxin  เป็นสารอนุพันธ์ของกรดอะมิโน ช่วยเร่งอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกาย ในสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ช่วยให้เกิด metamorphosis เร็วขึ้น ฮอร์โมนนี้จำเป็นต่อการเจริญและการพัฒนาการของร่างกายโดยเฉพาะสมองถ้าขาดฮอร์โมนไทรอกซิน ในเด็กจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง สติปัญญาไม่ดี อวัยวะเพศไม่เจริญ ร่างกายเตี้ยแคระ เรียกกลุ่มอาการนี้ว่า Cretinism ส่วนในผู้ใหญ่จะมีอาการเหนื่อยง่าย ซึม อ้วนง่าย ผมและผิวหนังแห้ง ความจำเสื่อม กล้ามเนื้ออ่อนแรง เฉื่อยชา เรียกกลุ่ม อาการนี้ว่า Myxedema นอกจากนี้การขาดธาตุไอโอดีน ยังมีผลทำให้ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนไทรอกซินได้ ส่งผลให้เป็น โรคคอพอก เพราะเมื่อร่างกายขาดไทรอกซิน จะมีผลให้ Hypotalamus หลั่งสารเคมีมากระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหน้าให้หลั่งฮอร์โมน TSH ส่งมาที่ต่อมไทรอยด์มากกว่าปกติ เมื่อต่อมถูกกระตุ้นจึงมีขนาดขยายโตขึ้น การสร้างฮอร์โมนนี้มากเกินไปจะทำให้เกิดโรค Grave’s disease ในเด็กจะมีอาการตัวสั่น ตกใจง่าย แต่คอไม่พอก ส่วนในผู้ใหญ่จะเกิดอาการคอพอกเป็นพิษ (toxin goiter หรือ exophthalmic goiter ) ต่อมมีขนาดใหญ่ มีฮอร์โมนมาก อัตราเมแทบอลิซึมจะสูง นานไปจะมีการสะสมสารเคมีบางชนิดในเบ้าตาทำให้ตาโปน
          2. Calcitonin เป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ลดระดับของแคลเซียมในเลือดที่สูงเกินปกติ ให้เข้าสู่ระดับปกติ โดยดึงส่วนที่เกินนั้นไปไว้ที่กระดูก ดังนั้นระดับแคลเซียมในเลือดจึงเป็นตัวควบคุมการหลั่งฮอร์โมน ฮอร์โมนนี้จะทำงานร่วมกับต่อมพาราไทรอยด์และวิตามินดี






ต่อมไพเนียล

          ต่อมไพเนียล (pineal gland) ของสัตว์เลือดเย็นเช่น ปลาปากกลม สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และเป็นสัตว์เลื้อยคลานบางชนิดไม่สร้างออร์โมน แต่เป็นกลุ่มเซลล์รับแสง ที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มเซลล์รับแสงในชั้นเรตินาของนัยน์ตา ต่อมนี้ในสัตว์เลือดอุ่นจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม มีวิวัฒนาการมาเป็นเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่สร้างฮอรโมนได้ การทำงานของต่อมนี้่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับแสงสว่างและการรับภาพมาก 
         ต่อมไพเนียลของคนอยู่ระหว่างเซรับรัมซีกซ้ายและซีกขวา ทำหน้าที่ กระตุ้นสารสีมีลานินในเซลล์เมลาโนฟอลล์และสร้างเมลาโทนิน (melatanin) ซึ่งทำหน้าที่บอกรอบวันและยังมีหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์ไม่ให้เติบโตเร็วเกินไปในช่วงก่อนวัยเจริญพันธุ์ ดังนั้นถ้าต่อมนี้ผิดปกติสร้างฮอร์โมนมากเกินไปจะทำให้เป็นหนุ่มสาวช้ากว่าปกติ 



ต่อมใต้สมอง

              ต่อมใต้สมอง (pituitary gland)  เป็นต่อมที่อยู่ติดกับส่วนล่างของสมองส่วนไอโพทาลามัส แบ่งได้เป็น 3 ส่วนคือ ต่อมใต้สมองส่วนหน้า ส่วนกลางและส่วนหลัง
                  ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ( anterior lobe of pituitary gland ) เป็นส่วนที่ไม่ได้เกิดจากเนื้อเยื่อประสาท การทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมของ hypothalamus สร้างฮอร์โมนประเภทสารโปรตีนหรือพอลิเพปไทด์ ได้แก่
            1. Growth hormone (GH) หรือ Somatotrophic hormone (STH)    ฮอร์โมนนี้หลั่งตอนหลับมากกกว่าตอนตื่นและตอนหิวมากกว่าช่วงปกติ เป็นฮอร์โมนที่ประกอบด้วย polypeptide ที่มีกรดอมิโน 191 ตัว มีธาตุกำมะถันอยู่ในรูป disulphid กระตุ้นให้เกิดการเจริญของกล้ามเนื้อและกระดูกโดยอาศัย thyroxin และ inrulin เป็นตัวคะตะลิสต์ มีอิทธิพลกระตุ้นการเจริญและเพิ่มความยาวของกระดูกกระตุ้นการเจริญของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆของร่างกาย ความผิดปกติเมื่อร่างกายขาดหรือมีมากเกินไป
                - ถ้าร่างกายขาด GH ในเด็ก ทำให้ร่างกายเตี้ยแคระ (สติปัญญาปกติ) เรียก Dawrfism ในผู้ใหญ่ มีอาการผอมแห้ง น้ำตาลในเลือดต่ำ มีภาวะทนต่อความเครียด (stess) สูงเรียกว่า Simmom’s disease
                - ถ้าร่างกายมี GH มากเกินไป ในวัยเด็ก จะทำให้ร่างกายเติบโตสูงใหญ่ผิดปกติ น้ำตาลในเลือดสูง ทนต่อความเครียดได้น้อย เรียกว่า Gigantism ในผู้ใหญ่ กระดูกขากรรไกร คางจะยาวผิดปกติ ฝ่ามือ ฝ่าเท้าโต จมูกใหญ่ ฟันใหญ่ และห่างเรียก Acromegaly

       
 2. Gonadotrophin หรือ Gonadotrophic hormone   ประกอบด้วยฮอร์โมนที่สำคัญ ชนิด คือ
                
2.1 Follicle stimulating hormone (FSH)  ทำหน้าที่ กระตุ้นฟอลลิเคิลให้สร้างไข่และไข่สุก มีการสร้างฮอร์โมน estrogen ออกมา และกระตุ้นการเจริญเติบโตของอัณฑะและหลอดสร้างอสุจิให้สร้างอสุจิ
                
2.2 Luteinizing hormone (LH)  ทำหน้าที่ กระตุ้นการตกไข่และเกิดคอร์ปัสลูเทียม คอร์ปัสลูเทียมจะสร้างฮอร์โมนชื่อ progesterone สำหรับในเพศชาย กระตุ้นให้ interstitial cells ในอัณฑะสร้างฮอร์โมนเพศชาย คือ  testosterone
        
3. Prolactin หรือ Lactogenic hormone (LTH)  ทำหน้าที่ กระตุ้นการเจริญของต่อมน้ำนมในเพศหญิง นอกจากนี้ทำหน้าที่ร่วมกับ androgen ในเพศชายกระตุ้นต่อมลูกหมาก การบีบตัวของท่อนำอสุจิ การสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ
        
4. Endrophin ป็นสารที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟิน
 ทำหน้าที่ ระงับความเจ็บปวดเป็นสารที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ช่วยเพิ่มความตื่นตัว มีชีวิตชีวาและความสุข จึงเรียกสารนี้ว่า สารแห่งความสุข 
        
5. Thyroid Stimulation hormone (TSH)  ทำหน้าที่ กระตุ้นให้มีการเพิ่มการนำไอโอดีนเข้าต่อมไทรอยด์ เพื่อเพิ่มการสังเคราะห์ thyroxine hormone การหลั่งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหน้าจะถูกควบคุมโดยฮอร์โมนที่สร้างจาก สมองส่วน hypothalamus มีฮอร์โมนที่กระตุ้นและยับยั้งการผลิตฮอร์โมน

                 ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนกลาง (Intermediate lobe)  มีขนาดเล็กมากทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน     Melanocyte Stimulating Hormone(MSH)   ทำหน้าที่ ปรับสีของสัตว์เลือดเย็นให้เข้มขึ้น(ทำหน้าที่ตรงข้ามกับ Malatonin จากต่อม pineal ) ในสัตว์เลือดอุ่นมีหน้าที่ไม่แน่ชัด
                ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองส่วนหลัง (Posterior lobe) 
                 เป็นกลุ่มเซลล์ของเนื้อเยื่อประสาทจาก hypothalamus ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนภายนอก แล้วลำเลียงมาไว้ที่ต่อมใต้สมองส่วนหลัง ได้แก่
             
1. Oxytocin   ทำให้กล้ามเนื้อมดลูก เต้านม กระเพาะปัสสาวะมีการหดตัว ฮอร์โมนนี้จะมีการหลั่งออกมาตอนคลอดลูกและในขณะร่วมเพศ แต่ถ้าหลั่งออกมามากก่อนคลอดจะทำให้แท้งลูกได้
             
2. Vasopressin   หรือ Antidiuretic hormone ( ADH ) ทำให้เส้นเลือดมีการหดตัวช่วยให้ท่อหน่วยไตดูดน้ำกลับคืน ทำให้ลดการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ที่จำเป็น ถ้าร่างกายขาดจะปัสสาวะมากทำให้เกิดโรคเบาจืด( diabetes inspidus) 





24 พ.ค. 2557

ระบบต่อมไร้ท่อ

        ต่อมไร้ท่อ (ENDOCRINE GLAND) หมายถึง ต่อมไม่มีท่อ สิ่งที่หลั่งจากต่อมเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือดไหลเวียนโดยตรง ไม่ต้องผ่านท่อ ดังนั้นเซลล์ของต่อมไร้ท่อจะสัมผัสกับหลอดเลือดฝอยภายในต่อมอย่างใกล้ชิด ต่อมเหล่านี้จึงมีเลือดมาเลี้ยงอย่างมากมาย 
        ต่อมไร้ท่อสร้างสารเคมีซึ่งมักจะเรียกว่า  ฮอร์โมน(HORMONES) ฮอร์โมนส่วนใหญ่เป็นสารประเภทโปรตีนเอมีนและสเตอรอยด์ที่ผลิตจากเนื้อเยื่อซึ่งจะไปควบคุมหรือดัดแปลงสมรรถภาพของเซลล์ของอวัยวะเป้าหมายผลของมันอาจไปกระตุ้นหรือยับยั้งก็ได้